นอกจากบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรงแล้วแคลเซียมมีบทบาทสำคัญในการทำงานอื่นๆ ของร่างกาย เช่น การแข็งตัวของเลือด การควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ และการทำงานของเส้นประสาทที่แข็งแรง การได้รับแคลเซียมไม่เพียงพออาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมายในเด็กและผู้ใหญ่ สัญญาณบางอย่างของการขาดแคลเซียมจะรู้สึกเหนื่อย ประสบปัญหาทางทันตกรรม , ผิวแห้ง ปวดกล้ามเนื้อ เป็นต้น
"โดยทั่วไป ผู้ที่มีไทรอยด์ ผมร่วง ปวดข้อ ความผิดปกติของการเผาผลาญ (สุขภาพลำไส้ไม่ดี) ปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมน ผู้ที่ได้รับ HRT (การบำบัดด้วยฮอร์โมนทดแทน) ภาวะขาดแคลเซียมในสตรีระหว่าง/หลังวัยหมดประจำเดือน" Dixa Bhavsar Dr. เขียนใน โพสต์ Instagram ล่าสุดของเธอ
การขาดแคลเซียมยังพบได้ในบางครั้งเนื่องจากขาดวิตามินดีวิตามินดีช่วยให้การดูดซึมแคลเซียมในลำไส้รวมทั้งฟอสเฟตและแมกนีเซียมไอออน และในกรณีที่ไม่มีวิตามินดี แคลเซียมในอาหารก็ไม่สามารถดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ Dr. Bhavsar กล่าว
“วิตามินดีช่วยให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้แคลเซียมจำเป็นสำหรับกระดูก ฟัน และผมที่แข็งแรงตามอายุรเวทผมและเล็บเป็นผลพลอยได้ (mala) ของ asthi (กระดูก)ดังนั้นแม้สุขภาพของเส้นผมจะขึ้นอยู่กับแคลเซียมแคลเซียมควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ การทำงานของเส้นประสาท และการเต้นของหัวใจ และยังช่วยให้เลือดแข็งตัว” ผู้เชี่ยวชาญอายุรเวทกล่าว
ในการรับวิตามินดี คุณควรได้รับแสงแดดอย่างน้อย 20 นาที Dr. Bhavsar กล่าว เธอบอกว่าเวลาที่ดีที่สุดที่จะอาบแดดคือตอนเช้า (พระอาทิตย์ขึ้น) และตอนเย็น (พระอาทิตย์ตก)
Amla อุดมไปด้วยวิตามินซี ธาตุเหล็ก และแคลเซียม คุณสามารถมีได้ในรูปแบบใดก็ได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ดิบ น้ำผลไม้ ผง sabat เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า amla ไม่แนะนำสำหรับผู้ที่มีอาการปวดข้อเนื่องจากมีรสเปรี้ยว
ใบมะรุมอุดมไปด้วยแคลเซียม ธาตุเหล็ก วิตามินเอ ซี และแมกนีเซียม รับประทานผงใบมะรุม 1 ช้อนชาทุกเช้าในขณะท้องว่าง เนื่องจากลักษณะที่ร้อนจัด พิต้าจึงควรรับประทานด้วยความระมัดระวัง
ใช้งาดำ/ขาวประมาณ 1 ช้อนโต๊ะ คั่วแบบแห้ง ผสมกับน้ำตาลโตนดและเนยใส 1 ช้อนชา แล้วคลึงให้เป็นก้อนกลม กินลาดูที่อุดมด้วยสารอาหารนี้เป็นประจำเพื่อเพิ่มระดับแคลเซียมของคุณ
นมเป็นแหล่งแคลเซียมที่ดีที่สุดที่ร่างกายดูดซึมได้ง่ายที่สุด นมหนึ่งแก้วต่อวันสามารถป้องกันปัญหาแคลเซียมได้
เวลาที่โพสต์:-15 เม.ย.-2565